เปิดประเด็นคำถามสุด Hot สำหรับหนุ่มสาวที่อยู่ในวัยทำงาน กำลังเริ่มก่อร่างสร้างตัว หลายคนทำงานมาหลายปี คงเริ่มมีเงินเก็บกันบ้างแล้วใช่ไหม อย่างน้อยๆ สัก 1-2 แสนก็น่าจะถึง แล้วเพื่อนๆเคยคิดไหมว่าจะนำเงินที่เก็บไว้ไปทำอะไรดี บางคนก็เลือกที่จะนำเงินไปลงทุน บางคนก็ฝันว่าจะซื้อรถยนต์ ไว้ใช้งาน นั่งสบายๆสักคัน นั่งรถเมล์มานานตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว บางคนคิดจะซื้อบ้านสักหลัง ฝันกันไว้เยอะเลยไม่ผิด ชีวิตคนปกติเรียนจบก็อยากมีบ้าน รถยนต์ และมีครอบครัวที่อบอุ่น แล้วเราจะซื้อบ้านหรือรถยนต์ก่อนดีคำถามนี้คล้ายๆกับคำถามว่าไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกันทำนองนั้น ขอตอบคำถามโดยแบ่งเป็นมุมมอง 2 แบบดังนี้
มุมมองที่ 1 ขึ้นกับเหตุปัจจัยความจำเป็นของแต่ละตัวบุคคล
เลือกซื้อบ้านหรือรถยนต์ก่อนก็ได้ครับ ตามความจำเป็นที่จะต้องใช้งาน และที่สำคัญที่สุดจะต้องไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ยกตัวอย่างเช่น
– คุณมดดำเป็นคนรักสัตว์ชอบเลี้ยงสุนัขมากๆ กรณีของคุณมดดำ จำเป็นต้องตัดสินใจซื้อบ้านก่อนที่จะซื้อรถยนต์ เพราะคุณมดดำต้องการบ้านที่มีพื้นที่โดยรอบเพื่อเลี้ยงสุนัข
– คุณหยกเลือกที่จะซื้อรถยนต์ก่อนซื้อบ้าน เนื่องจากโครงการบ้านใหม่ๆ ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในซอย ซึ่งเวลาจะเดินทางเข้าและออกจากบ้านแต่ละครั้ง หากไม่มีรถยนต์ไว้ใช้งานสักคัน ชีวิตต้องลำบากมาก อีกทั้งเวลาจะไปซื้อบ้าน ถ้าหากไม่มีรถยนต์พาไปซื้อบ้านก็ไม่สะดวกอีกเช่นกัน
– คุณโบนัสบอกว่า เราขอตัดสินใจซื้อบ้านก่อนซื้อรถดีกว่า เพราะบ้านและที่ดินมีมูลค่าเพิ่มตลอดทุกปี ถึงแม้บ้านจะเก่าลงก็ตาม อีกทั้งบ้านและที่ดินยังสามารถนำมาเป็นหลักประกันด้านการเงินได้อีกด้วย แต่ถ้าหากนำเงินไปซื้อรถยนต์ เมื่อเวลาผ่านไปแต่ละปี มูลค่าของรถยนต์ก็จะลดลงเรื่อยๆ ค่าบำรุงรักษาก็จะเพิ่มขึ้นทุกปีๆเช่นกัน ทุนประกันภัยของรถยนต์ก็จะลดลงทุกปีเช่นกันในขณะที่จ่ายค่าเบี้ยแพงขึ้นหรือจ่ายเท่าเดิมก็ตาม
มุมมองที่ 2 พิจารณาจากความยากง่ายในการซื้อบ้านและรถยนต์
ถ้าหากพิจารณาจากความยากง่ายในการซื้อ แน่นอนค่ะของทั้งสองสิ่งนี้ราคาหลักใกล้ๆล้านบาทหรือล้านบาทขึ้นไป แน่นนอนใช่ไหมน้อยคนที่ซื้อบ้านและรถยนต์ด้วยเงินสดในยุคนี้ ส่วนใหญ่ต้องอาศัยการขอกู้เงินจากธนาคารมาซื้อการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์จะง่ายกว่าการอนุมัติสินเชื่อซื้อบ้าน เนื่องจากระยะเวลาการผ่อนชำระค่างวดรถยนต์ใช้เวลาเพียง 4-6 ปี ซึ่งสั้นกว่าระยะเวลาการผ่อนชำระค่าสินเชื่อกู้ซื้อบ้าน
ในการขอสินเชื่อซื้อรถยนต์ หากผู้กู้เงินเดือนไม่สูงมาก แต่ธนาคารดูแล้วพอจะมีความสามารถในการส่งค่างวดไหว อาจจะต้องใช้คนค้ำประกัน หรือขยายเวลาการผ่อนชำระให้ยาวที่สุด เพื่อให้จำนวนเงินที่ผู้ซื้อต้องส่งค่างวดแต่ละเดือนลดลง (แต่ดอกเบี้ยเพิ่ม) เพียงเท่านี้เพื่อนๆก็สามารถซื้อรถได้แล้วค่ะ
สำหรับการกู้ซื้อบ้าน ซึ่งมีการผ่อนชำระที่ยาวนานถึง 20-30 ปี ดังนั้นการที่ธนาคารจะปล่อยกู้นั้นธนาคารต้องประเมินความเสี่ยงค่อนข้างละเอียด หนี้สินต่างๆที่แสดงบนเครดิตบูโรซึ่งธนาคารจะนำมาประเมินโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อทั้งหมด
หมายความว่า หากซื้อรถยนต์ก่อนซื้อบ้าน ยอดเงินที่เรากู้ซื้อรถยนต์กับธนาคารนั้นๆ จะแสดงที่เครดิตบูโรด้วย ยกตัวอย่างเช่น นาย ก. เงินเดือน 20,000 บาท ซื้อรถยนต์คันละ 9 แสน ถึง 1 ล้านบาท ต้องส่งค่ารถยนต์ให้กับธนาคารโดยประมาณเดือนละ 12,000 บาท ทุกเดือนเป็นเวลา 5 ปี หนึ่งปีผ่านไป นาย ก. คิดที่จะซื้อบ้านสักหลังเป็นของตนเอง โดยมองหาจะซื้อบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น จากนั้นทำการยื่นเรื่องขอกู้เงินกับธนาคารเพื่อซื้อบ้าน เพื่อนๆคิดว่านาย ก. จะกู้ซื้อบ้านผ่านไหม ตอบอย่างรวดเร็วว่ากู้ไม่ผ่าน เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากนาย ก. เหลือเงินไว้ใช้จ่ายเพียงเดือนละ 8,000 บาท หลังจากหักเงินที่ต้องผ่อนรถแล้ว