เนื่องจากการเดินทางด้วยรถยนต์ไปไหนมาไหนทำได้สะดวก ทำให้มีผู้คนสนใจที่จะซื้อรถมาใช้เองมากว่า จึงส่งผลให้ธุรกิจขายรถมีอัตราเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ในการเลือกซื้อรถจึงจำเป็นที่จะต้องมีการวางแผนการเงิน โดยที่ค่าใช้จ่ายในการซื้อรถไม่ควรเกิน 15% ของรายได้ในครอบครัว เพื่อจะได้ไม่มีภาระในการผ่อนและการเลือกสถาบันทางการเงินที่จะกู้เพื่อซื้อรถ ควรที่จะเลือกธนาคารหรือไฟแนนซ์ที่ให้อัตราดอกเบี้ยต่ำและมีเงือนไขที่ดีกว่า
นอกจากนั้นภายหลังจากการซื้อรถแล้วจะต้องคิดว่ายังมีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มขึ้นอีก อย่างเช่น ค่าธรรมเนียมการโอนรถ ค่าภาษีรถ ค่าจอดรถ ค่าประกันอุบัติเหตุ ค่าทางด่วน ค่าบำรุงรักษาและค่าน้ำมัน ฉะนั้นการวางแผนด้านการเงินสำหรับซื้อรถจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง การที่จะซื้อรถควรซื้อเพราะความจำเป็นไม่ใช่ซื้อตามกระแสนิยม และควรซื้อรถโดยคำนวณดูแล้วว่าคุ้มค่าในระยะยาว ซึ่งการซื้อรถให้คุ้มค่าในระยะยาวนั้นไม่ควรพิจารณาเฉพาะคำโฆษณาและความนิยมของตลาดแต่ควรพิจารณาถึงคุณภาพของรถที่จะเลือกให้สอดคล้องกับความต้องการมากกว่า เช่น เลือกรถที่กินน้ำมันน้อย ซึ่งเป็นการประหยัด และควรพิจารณาถึงความแข็งแรงทนทาน รวมทั้งอายุการใช้งานและขนาดที่เหมาะสม
การเลือกซื้อบ้านต้องดูมูลค่าของบ้านที่จะซื้อไม่ควรเกินสองเท่าของรายได้ของครอบครัว โดยซื้อบ้านไม่ควรเกิน 400,000 บาท เพราะจะต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการผ่อน สำหรับหลักสำคัญในการขอสินเชื่อบ้าน คือ ควรเลือกโครงการที่มีค่าใช้จ่ายต่ำที่สุด เพราะการกู้เงินเพื่อซื้อบ้านจะต้องตัดสินใจหลายอย่าง เช่น จะกู้จำนวนเท่าไร จะกู้ในระยะเวลานานเท่าไร และจะต้องดูอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้จะต้องศึกษาถึงรายละเอียดต่างๆดังนี้ จะกู้เงินต้องใช้หลักฐานอะไรบ้าง ใช้ระยะเวลาในการอนุมัตินานแค่ไหน และทางธนาคารใช้หลักเกณฑ์อะไรในการพิจารณา ดังนั้นการวางแผนด้านการเงินสำหรับการซื้อบ้านจึ่งจำเป็นอย่างมาก ดังนั้นถ้าต้องเลือกซื้ออย่างใดอย่างหนึ่งก่อน ก็ควรจะซื้อบ้านก่อน เนื่องจากบ้านจะมีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะต่างกับรถยนต์เพราะจะมีมูลค่าลดลงเรื่อยๆ ในการพิจารณาซื้อบ้านหรือรถจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ